หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill )

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill )
การทำธุรกิจในยุคแห่งการแข่งขันที่ไร้พรมแดน มีเงื่อนไขในกระบวนการทำธุรกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ละองค์กรต้องปรับตัวเพื่อการแข่งขันทั้งองค์กรธุรกิจในประเทศและในต่างประเทศ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กร ถือเป็นกุญแจสำคัญในการตระเตรียมความพร้อมเพื่อการรับมือและเพื่อการสร้างโอกาสในโลกธุรกิจยุค(New Economy) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้น จึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้หัวหน้างานเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill ) จึงออกแบบมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาทักษะในหลากหลายมิติของความคิด อุปนิสัยและแนวทางปฏิบัติ สู่ความเป็นหัวหน้างานและผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม เป็นการเพิ่มพลังองค์กรให้สามารถก้าวสู่ผลประกอบการตามเป้าหมายและเพื่อการเติบโตของธุรกิจ

 

วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อให้หัวหน้างานรู้จักเข้าใจบทบาทของการเป็นหัวหน้างาน ที่มีภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหลักการของ 4D Supervisory Skill
  2. เพื่อให้หัวหน้างาน มีความกล้า มีความมั่นใจ ในการสื่อสารโดยการมอบหมายงาน การติดตามงาน การสอนงานต่อผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านการสื่อสารประชุมงานก่อนเริ่มต้นทำงานในทุก ๆ วัน
  3. เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา และพร้อมที่จะสื่อสารเชิงบวกไปให้ เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
  4. เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจวิธีการสื่อสารทั้งการชื่นชม และการตำหนิเพื่อให้เกิดการปรับปรุงงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อเป้าหมายร่วมกันด้วยหลักของ 4D Supervisory Skill
  5. เพื่อให้หัวหน้างานสามารถนำองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการสื่อสารไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน

 

 

ลักษณะของการอบรม

 

เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DISC Model และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม
  2. การใช้เครื่องมือ DISC Model และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
  • Ai (Appreciative Inquiry)
  • Dialogue สุนทรียะสนทนา
  • เกมพฤติกรรม
  • Work Shop
  • Clip VDO และอื่นๆ

 

หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

 

  • หัวหน้างานคือใคร ?

 

  • ความสำคัญของตำแหน่ง “หัวหน้างานยุคใหม่”
  • บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะผู้บริหารระดับต้นขององค์กร
  • แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในองค์กร

 

  • รู้เรา : ทําความรู้จักตัวตน และสไตล์การทำงานของตนเอง
  • รู้เขา : กลเม็ดและสไตล์ในการทํางานกับลูกน้อง 4 ประเภท

 

  • Workshop : กลเม็ดในการบริหารลูกน้อง 4 ประเภทให้เข้ากับสไตล์การทำงานของตน  

 

  • กรณีศึกษาและบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน
  • กรณีศึกษาการเป็นหัวหน้างานที่ดีสู่ความสำเร็จ
  • บทบาทและทักษะที่หัวหน้างานควรมี
  • กิจกรรม: คุณลักษณะของหัวหน้างานที่ดีและการประเมินตนเอง
    • คุณลักษณะใดที่ท่านยังแสดงออกน้อยไป
    • คุณลักษณะใดที่ท่านยังนำไปสู่แนวทางปฏิบัติไม่ถึง
    • คุณลักษณะใดที่ท่านอยากจะเก่งมากขึ้น
    • คุณลักษณะใดที่ท่านควรปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น

 

  • ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการในยุค 4.0 (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)
  • Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
  • Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)
  • Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others )
  • มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)
  • สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)
  • มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน (Conceptual Thinking)
  • มีทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรของ (Resource Management Skill)
  • กล้าตัดสินใจ (Decision Making)
  • มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)
  • สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)
  • การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
  • การบริหารความขัดแย้งภายในองค์กร (Conflict Management)

 

  • 4D Supervisory Skill : Motivation for High Productivities
  • การสร้างแรงจูงใจจากกลยุทธ์ เป้าหมายหรือทิศทางองค์กร
  • การตั้งเป้าหมาย: SMART Goal
  • กิจกรรม: การตั้งเป้าหมาย SMART-D
  • เทคนิคการสร้างแรงจูงใจจากภายใน (Inner Mental):
  • วิธีการสร้างแรงจูงใจ
  • ข้อผิดพลาดในการสร้างแรงจูงใจ

 

  • การประยุกต์การบริหารการสื่อสารแบบ HO-REN-SO
  • HO – การรายงาน คือหน้าที่เป็นอย่างไร
  • เทคนิคในการสรุปรายงาน / ลักษณะการรายงานที่ดี
  • REN – การประสานงาน คือการใส่ใจอย่างไร
  • สรุปหลักการ และวิธีการติดต่อ-ประสานงาน
  • ศิลปะในการติดต่อ-ประสานงาน
  • SO – การปรึกษา เพื่อแก้ไขเป็นอย่างไร
  • วิธีและขึ้นตอนการปรึกษาหารือ
  • เครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการปรึกษาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหา

 

  • Communication for Happy Life and Effective Work
  • การสื่อสารของหัวหน้าอย่างมีประสิทธิผล
  • ระบบการสื่อสาร
  • Communication-Report-Consults
  • Assertiveness
  • ภาษา-ภาษาพูด-ภาษาใจ
  • ทักษะการฟัง
  • กิจกรรม: ทักษะการฟัง
  • กิจกรรม: แบบทดสอบทักษะการฟัง

 

 

สรุปบทเรียน และถาม-ตอบ

 

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม

 

  1. หัวหน้างานรู้จักเข้าใจบทบาทของการเป็นหัวหน้างาน ที่มีภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหลักการของ 4D Supervisory Skill
  2. หัวหน้างาน มีความกล้า มีความมั่นใจ ในการสื่อสารโดยการมอบหมายงาน การติดตามงาน การสอนงานต่อผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านการสื่อสารประชุมงานก่อนเริ่มต้นทำงานในทุก ๆ วัน
  3. หัวหน้างานเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา และพร้อมที่จะสื่อสารเชิงบวกไปให้ เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
  4. หัวหน้างานเข้าใจวิธีการสื่อสารทั้งการชื่นชม และการตำหนิเพื่อให้เกิดการปรับปรุงงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อเป้าหมายร่วมกันด้วยหลักของ 4D Supervisory Skill
  5. หัวหน้างานสามารถนำองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการสื่อสารไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน

 

 

กลุ่มเป้าหมาย

 

  • ผู้บริหาร, ผู้จัดการ, หัวหน้างาน,

วิธีการอบรม

  • การบรรยาย/กิจกรรมกลุ่ม, เดี่ยว/ ทำแบบ Assessment /Clip VDO

 

รูปแบบหลักสูตร

1.การบรรยาย                                                      30 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop    70%

 

 

 

lightbulb-3449671__340

หลักสูตร การเพิ่มผลผลิตในตนเอง ด้วย 5Q (Personal Productivity with 5Q)

หลักสูตร  การเพิ่มผลผลิตในตนเอง ด้วย 5Q (Personal Productivity with 5Q)

 

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติให้รู้จัก และเข้าใจตนเอง สามารถประเมินจุดเด่น จุดด้อย และ

กำหนดแนวทางให้การพัฒนาตนเองได้

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้การพัฒนาศักยภาพของตนเองผ่านเครื่องมือ และวิธีการต่างๆ อย่าง

เป็นระบบ

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถบริหารจัดการ และวางแผนตนเองให้มุ่งสู่ความสำเร็จอย่างมีแบบแผน

5Q คืออะไร?

     การดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมายและไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง การพัฒนาระดับความสามารถ (Quotient) ในด้านต่างๆ ของแต่ละบุคคลจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วย

     การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ที่สำคัญ (5Q) ของแต่ละบุคคลด้วยตัวเอง จึงเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่อยากให้เกิดขึ้นกับบุคลากรในองค์กรของตัวเอง โดยการทำให้บุคลากรมี 5Q ที่สูงขึ้น

 

IQ : ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างฉลาด

EQ : การจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเอง

AQ : การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาสที่ท้าทาย

OQ : การแสดงผลงานที่มีคุณค่า

UQ : การเป็นบุคคลที่มีจริยธรรมอันดี

 

      การประยุกต์ใช้แนวทางบริหารจัดการ Q (Quotient) ต่างๆ กับเป้าหมายในชีวิตหรืองานที่ได้รับ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ย่อมทำให้บุคคลสามารถพิชิตเป้าหมายของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคคลรอบข้าง รวมถึงการเป็นบุคลากรที่มีจิตใจที่ดีขององค์กร จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

    การเรียนรู้และนำแนวทางไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเข้าใจแนวทาง 5Q นั้น จะทำให้บุคลากรได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง นั่นก็หมายความว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติงานของแต่ละบุคคลที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดผลงานที่มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

   โดยที่ Q แต่ละตัวจะสอดคล้องกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักของสมาธิเข้าไปเป็นพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้จะทำให้เป็น 5Q แบบยั่งยืนแล้วเป็นต้นแบบเพื่อองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตัวเอง

 

หลักสูตรฯ ให้สิ่งใดแก่ผู้เข้าอบรม

  1. สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยก โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพิ่มประสิทธิผลของการสื่อสาร และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองกับผู้อื่นได้อย่างลงตัว สามารถประยุกต์ใช้ 5Q กับการทำงานเพื่อการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. ได้แนวคิดการเพิ่มผลผลิต (Productivity Concept) จากจุดเริ่มต้นที่ตัวเอง
  3. ได้กรอบแนวคิดและแนวทางในการเพิ่มผลผลิตตนเอง (Personal Productivity)
  4. เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ 5Q และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการของตนเองมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นอัตโนมัติ
  5. ได้ปรับบุคลิกภาพให้เข้ากับผู้อื่นอย่างเหมาะสมพร้อมทั้ง ริเริ่มตนเป็น รู้จักการกำหนดเป้าหมายตนเองการประเมินสถานการณ์ และการสร้างแรงบันดาล ใจให้ตนเอง (Self Initiation)
  6. เข้าใจแนวคิดการเพิ่มผลผลิตตนเอง (Personal Productivity)อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมองเห็นโอกาสตนถูกการกระตุ้นจูงใจ(Self Motivation)และการบริหารเวลา (Time Management)
  7. ได้จุดร่วม และสงวนจุดต่างของการอยู่ร่วมกันในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข และบรรลุเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน
  8. ค้นพบ “ตัวตน” ที่แท้จริงของตนเอง สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจําวันกับแนวคิดการเพิ่มผลผลิตตนเอง (Personal Productivity)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  9. เข้าใจหลักของ 5Q ผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้

 

– สนุกกับการใช้ IQ (Intelligence Quotient) แก้ปัญหาต่างๆ

– พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ EQ (Emotional Quotient)

– ก้าวข้ามอุปสรรค AQ (Adversity Quotient) อย่างกล้าหาญ

– แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของ OQ (Optimist Quotient)

– พัฒนาตนเองเพื่ออยู่ร่วมกับสังคม UQ (Unity Quotient)  อย่างมีความสุข

 

-ได้ทดลองปฏิบัติผ่าน Workshop: กำหนดแนวทางพัฒนา 5Q ของตนเอง

 

 ลักษณะของการอบรม

         เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า 5Q (IQ EQ OQ AQ UQ ) และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ 70 : Work Shop กิจกรรม 30
  2. การใช้เครื่องมือทางด้าน 5Q และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
  • Ai (Appreciative Inquiry)
  • Dialogue สุนทรียะสนทนา
  • เกมพฤติกรรม
  • Work Shop
  • การระดมความคิดด้วย 5Q
  • Clip VDO และอื่นๆ


หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

  • หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 5Q
    • ใครคือคนที่องค์กรต้องการ
    • บทบาทหน้าที่ของตัวเอง
    • ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ
    • เรียนรู้คน จากโมเดลผู้นำ 4 ทิศ
  • การสร้างแรงผลักดันให้ลูกน้องทำงานและมุ่งมั่นทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
    • ทฤษฎีการสร้างแรงจูงใจ ในการทำงาน
  • การประยุกต์กับการทำงานได้อย่างสัมฤทธิผลด้วย 5Q
  • ทัศนคติที่ดีในการทำงาน
  • Work Shop
    • ผ่านกิจกรรมกลุ่ม 4-5 กิจกรรม In house
    • ระดมสมอง และแชร์ความคิด

 

ความหลากหลายของกิจกรรม

– รู้จักตนเองเพื่อเข้าใจผู้อื่นด้วย 5Q

– ความแตกต่างของเจนเนอเรชัน (generations’ differences)

– เราเป็นค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใกล้ชิดมากที่สุด

– Work Shop 5Q ฝึกเล่าเรื่องตามคำสั่งและการแก้ปัญหา

– การพัฒนาตนเองเพื่อเสริมสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีด้วย 5Q

– Work Shop เดาใจเพื่อนด้วยตัวเลข (สงครามตัวเลข)

– Clip VDO การเข้าใจตนเอง

– เรียนรู้การทำงานของสมอง

– คิดด้วยสมอง…ทำด้วยใจ

– การสื่อสารแบบปากต่อปาก (Work Shop ใบ้คำ)

– ความหมายที่แท้จริงของชีวิต

– คำพังเพยไทย (Work Shop สนุกคลายเครียด)

– WHO ARE YOU (Work Shop)

– แบบทดสอบสัตว์สี่ทิศและความหมายของ 5Q

– Dialogue (พูดคุยกันแบบสบาย ๆ ในกิจกรรมที่ผ่านมา)

– คนเราแตกต่างกันอย่างไร? และเราจะได้ประโยชน์จากความเข้าใจความแตกต่างนั้นได้อย่างไร?

 

 

 ใครควรเข้าร่วม?

  1. บุคคลทั่วไปที่ต้องการเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตนเอง และผู้อื่น
  2. บุคคลทั่วไปที่ต้องการเตรียมพร้อมสู่การเป็นหัวหน้างาน
  3. ผู้บริหาร หัวหน้างาน ระดับปฏิบัติงาน ที่ต้องการพัฒนาตนเอง

 

รูปแบบหลักสูตร

  1. การบรรยาย 30 %
  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop 70%

 

 

ผลสัมฤทธิ์ที่จะได้ (Outcomes)

         บุคคล

  • เรียนรู้ เข้าใจธรรมชาติและพื้นฐานของตนเอง และผู้อื่นด้วย 5Q
  • เข้าใจตนเองและผู้อื่นด้วยแบบทดสอบสัตว์สี่ทิศและ 5Q
  • สามารถใช้ 5Q เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
  • เข้าใจวิธีลดความตึงเครียดในการทำงานร่วมกันด้วย 5Q
  • สามารถนำความรู้เรื่อง 5Q ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข

 

ครอบครัว

  • ได้ผู้นำครอบครัวและสมาชิกของครอบครัวที่เข้าใจธรรมชาติและพื้นฐานของตนเองและคนในครอบครัวด้วย 5Q
  • จุดประกายความเข้าใจภายในครอบครัว เปิดใจ เอื้ออาทร ห่วงใยดูแลและรับฟังกันมากขึ้นเพราะมี 5Q
  • สมาชิกในครอบครัวรู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนเองอย่างเอื้ออาทรกันและกัน
  • สมาชิกในครอบครัวมีความรัก ความเข้าใจ
  • ประชาธิปไตยและเสรีภาพบนความรับผิดชอบร่วมกันเริ่มต้นที่ในบ้าน

 

 องค์กร

  • ได้พนักงานที่มีทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน
  • พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น
  • นโยบายขององค์กรถูกขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติได้เร็วขึ้น
  • ได้รับการยอมรับในเรื่ององค์กรยุคใหม่ใส่ใจในทุกๆ ด้านของผู้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรทั้งหมด (ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ผลิตวัตถุดิบให้เรา ลูกค้าเรา และสิ่งแวดล้อมที่องค์กรเราอยู่ร่วมด้วย)
  • ผลกำไรที่ยั่งยืน ส่งผลทำให้ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร พนักงาน ผู้ผลิตวัตถุดิบให้เรา ลูกค้าเรา และสิ่งแวดล้อมที่องค์กรเราอยู่ร่วมด้วย อยู่กันอย่างเกื้อกูล
  • เป็นองค์กรที่มีความสำเร็จและความสุข

 

 

DISC

หลักสูตร DISC สำหรับหัวหน้างาน (DISC for Leadership)

หลักสูตร DISC สำหรับหัวหน้างาน (DISC for Leadership)

การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

การพัฒนาระดับความสามารถ ในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้นจึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ รวมทั้งหัวหน้างานยุคใหม่ต้องเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง เพราะตระหนักรู้ว่าถ้าเราไม่ยอมปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงยากที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจ

หลักสูตรนี้ได้นำเอาหลักของ DISC มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญ ที่ช่วยให้ผู้เข้าอบรมเกิดความเข้าใจในคุณลักษณะ พฤติกรรมการแสดงออกทั้งของตนเองและของบุคคลอื่น ซึ่งจะนำไปสู่ การยอมรับตนเอง รับรู้ เข้าใจถึงความแตกต่างและความถนัดของบุคคลในแต่ละคุณลักษณะ เข้าใจถึงสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการแสดงออกของแต่ละคุณลักษณะบุคคล  สามารถนำเอาหลักการและความเข้าใจเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเอง ปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นและสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม เพิ่มทักษะในการพัฒนาขีดความสามารถของทีมงาน ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างบุคคล สร้างแนวทางการครองใจสมาชิกในทีมด้วยรูปแบบที่เหมาะสมของตนเอง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตนเองและของทีมงานจากการที่ทุกคนในทีมมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน รู้แนวทางความถนัดของสมาชิกในทีม เกิดความสามัคคีร่วมมือร่วมใจ สร้างและรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลอื่นได้อย่างสัมฤทธิ์ผล

 

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น ด้วยรูปแบบของกลุ่มพฤติกรรมที่แตกต่างกัน – DISC Model
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ช่วยค้นหาจุดเด่น และสิ่งที่ควรพัฒนา เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองของผู้นำที่ดี ให้มีภาวะของผู้นำ
  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ปรับบุคลิกภาพของผู้นำให้เข้ากับผู้อื่นอย่างเหมาะสม
  4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยหลักของ DISC
  5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจว่าการมีจุดร่วม และสงวนจุดต่างของผู้นำและการอยู่ร่วมกันในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข และบรรลุเป้าหมายขององค์กรร่วมกันนั้นสำคัญมาก
  6. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ “ตัวตน” ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง ด้วย DISC Model อีกทั้งสามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจําวันและการทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ลักษณะของการอบรม

เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DISC Model และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม
  2. การใช้เครื่องมือ DISC Model และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
  • Ai (Appreciative Inquiry)
  • Dialogue สุนทรียะสนทนา
  • เกมพฤติกรรม
  • Work Shop
  • Clip VDO และอื่นๆ

 

 หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

  • หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย DISC Model
    • แนวคิดเรื่องพฤติกรรมมนุษย์และการแสดงออก
    • ความหมายของ D-I-S-C และความสำคัญในการเข้าใจเรื่อง D-I-S-C
    • ประเภทของพฤติกรรมมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ
    • ศึกษากรณีศึกษาของบุคคลต่างๆ กับพฤติกรรมการแสดงออกของเขา
    • สาเหตุของความแตกต่างของมนุษย์
    • การสำรวจบุคลิกความแตกต่างของพฤติกรรมแต่ละคน
    • การค้นหาความแตกต่างของแต่ละคน
    • การสื่อสารและการแสดงออกของคนในแต่ละประเภท
    • การประยุกต์ใช้ D-I-S-C กับอิริยาบถของการทำงาน
    • การจัดทำ Work Shop

 

  • ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)
  • Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
  • Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)
  • Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others )
  • มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)
  • สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)
  • กล้าตัดสินใจ (Decision Making)
  • มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)
  • สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)

 

  • Continuous Learning (การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง)
  • Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม

 

1.ผู้เข้าอบรมได้สร้างมุมมองการอยู่ร่วมกันที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกของผู้นำ โดยรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น ด้วยรูปแบบของกลุ่มพฤติกรรมที่แตกต่างกัน – DISC Model

2.ผู้เข้าอบรมได้ช่วยค้นหาจุดเด่น และสิ่งที่ควรพัฒนา เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาตนเองของผู้นำที่ดี ให้มีภาวะของผู้นำ

3.ผู้เข้าอบรมได้ปรับบุคลิกภาพของผู้นำให้เข้ากับผู้อื่นอย่างเหมาะสม

4.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของผู้นำ และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขด้วยหลักของ DISC

5.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจว่าการมีจุดร่วม และสงวนจุดต่างของผู้นำและการอยู่ร่วมกันในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข และบรรลุเป้าหมายขององค์กรร่วมกันนั้นสำคัญมาก

6.ผู้เข้าอบรมได้ค้นพบ “ตัวตน” ของผู้นำในแบบฉบับที่แท้จริงของตนเอง ด้วย DISC Model อีกทั้งสามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจําวันและการทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

กลุ่มเป้าหมาย

ผู้บริหาร, ผู้จัดการ, หัวหน้างาน, พนักงานทั่วไป และผู้ที่ต้องการพัฒนาตัวเอง

 

วิธีการอบรม

การบรรยาย/กิจกรรมกลุ่ม, เดี่ยว/ ทำแบบ Assessment /Clip VDO

 

รูปแบบหลักสูตร

1.การบรรยาย                                                          40 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop    60%