หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill )

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill )
การทำธุรกิจในยุคแห่งการแข่งขันที่ไร้พรมแดน มีเงื่อนไขในกระบวนการทำธุรกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ละองค์กรต้องปรับตัวเพื่อการแข่งขันทั้งองค์กรธุรกิจในประเทศและในต่างประเทศ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรภายในองค์กร ถือเป็นกุญแจสำคัญในการตระเตรียมความพร้อมเพื่อการรับมือและเพื่อการสร้างโอกาสในโลกธุรกิจยุค(New Economy) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

การเป็นหัวหน้างานยุคใหม่ที่จะประสบความสำเร็จตามที่ได้วางไว้ได้อย่างดี มีองค์ประกอบมากมายที่จะนำมาพิจารณาการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย และไปในทิศทางเดียวกันนั้นจะใช้ความรู้ความสามารถเพียงด้านเดียวคงจะไม่พอต่อการถึงจุดหมายปลายทาง

การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ของหัวหน้างานยุคใหม่นั้น จึงเป็นประเด็นที่สำคัญที่จะทำให้หัวหน้างานเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการบริหารงาน และส่งให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นไปด้วยจึงจะเรียกว่า การเป็นผู้นำและนักบริหารมืออาชีพ

หลักสูตร ทักษะการควบคุม 4D โดยหัวหน้างาน (4D Supervisory Skill ) จึงออกแบบมาโดยมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาทักษะในหลากหลายมิติของความคิด อุปนิสัยและแนวทางปฏิบัติ สู่ความเป็นหัวหน้างานและผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม เป็นการเพิ่มพลังองค์กรให้สามารถก้าวสู่ผลประกอบการตามเป้าหมายและเพื่อการเติบโตของธุรกิจ

 

วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อให้หัวหน้างานรู้จักเข้าใจบทบาทของการเป็นหัวหน้างาน ที่มีภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหลักการของ 4D Supervisory Skill
  2. เพื่อให้หัวหน้างาน มีความกล้า มีความมั่นใจ ในการสื่อสารโดยการมอบหมายงาน การติดตามงาน การสอนงานต่อผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านการสื่อสารประชุมงานก่อนเริ่มต้นทำงานในทุก ๆ วัน
  3. เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา และพร้อมที่จะสื่อสารเชิงบวกไปให้ เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
  4. เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจวิธีการสื่อสารทั้งการชื่นชม และการตำหนิเพื่อให้เกิดการปรับปรุงงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อเป้าหมายร่วมกันด้วยหลักของ 4D Supervisory Skill
  5. เพื่อให้หัวหน้างานสามารถนำองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการสื่อสารไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน

 

 

ลักษณะของการอบรม

 

เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า DISC Model และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีการ

  1. บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม
  2. การใช้เครื่องมือ DISC Model และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
  • Ai (Appreciative Inquiry)
  • Dialogue สุนทรียะสนทนา
  • เกมพฤติกรรม
  • Work Shop
  • Clip VDO และอื่นๆ

 

หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้

 

  • หัวหน้างานคือใคร ?

 

  • ความสำคัญของตำแหน่ง “หัวหน้างานยุคใหม่”
  • บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของหัวหน้างานในฐานะผู้บริหารระดับต้นขององค์กร
  • แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในองค์กร

 

  • รู้เรา : ทําความรู้จักตัวตน และสไตล์การทำงานของตนเอง
  • รู้เขา : กลเม็ดและสไตล์ในการทํางานกับลูกน้อง 4 ประเภท

 

  • Workshop : กลเม็ดในการบริหารลูกน้อง 4 ประเภทให้เข้ากับสไตล์การทำงานของตน  

 

  • กรณีศึกษาและบทบาทหน้าที่ของหัวหน้างาน
  • กรณีศึกษาการเป็นหัวหน้างานที่ดีสู่ความสำเร็จ
  • บทบาทและทักษะที่หัวหน้างานควรมี
  • กิจกรรม: คุณลักษณะของหัวหน้างานที่ดีและการประเมินตนเอง
    • คุณลักษณะใดที่ท่านยังแสดงออกน้อยไป
    • คุณลักษณะใดที่ท่านยังนำไปสู่แนวทางปฏิบัติไม่ถึง
    • คุณลักษณะใดที่ท่านอยากจะเก่งมากขึ้น
    • คุณลักษณะใดที่ท่านควรปรับปรุง พัฒนาให้ดีขึ้น

 

  • ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการในยุค 4.0 (การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน)
  • Teamwork (การทำงานเป็นทีม)
  • Achievement Motivation (แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ)
  • Accountability (ความรับผิดชอบอย่างผู้นำ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • มีวิสัยทัศน์ (Visioning Goal Setting & Leading others )
  • มีทักษะการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง (Change Management Skills)
  • สอนงานเป็นและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ (Coaching & Develop others)
  • มีแนวกรอบแนวคิดในการทำงาน (Conceptual Thinking)
  • มีทักษะการบริหารจัดการทรัพยากรของ (Resource Management Skill)
  • กล้าตัดสินใจ (Decision Making)
  • มีทักษะการบริหารจัดการลูกน้อง (People Management Skills)
  • สามารถจูงใจลูกน้องได้ (Motivate Subordinate)
  • การบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
  • การบริหารความขัดแย้งภายในองค์กร (Conflict Management)

 

  • 4D Supervisory Skill : Motivation for High Productivities
  • การสร้างแรงจูงใจจากกลยุทธ์ เป้าหมายหรือทิศทางองค์กร
  • การตั้งเป้าหมาย: SMART Goal
  • กิจกรรม: การตั้งเป้าหมาย SMART-D
  • เทคนิคการสร้างแรงจูงใจจากภายใน (Inner Mental):
  • วิธีการสร้างแรงจูงใจ
  • ข้อผิดพลาดในการสร้างแรงจูงใจ

 

  • การประยุกต์การบริหารการสื่อสารแบบ HO-REN-SO
  • HO – การรายงาน คือหน้าที่เป็นอย่างไร
  • เทคนิคในการสรุปรายงาน / ลักษณะการรายงานที่ดี
  • REN – การประสานงาน คือการใส่ใจอย่างไร
  • สรุปหลักการ และวิธีการติดต่อ-ประสานงาน
  • ศิลปะในการติดต่อ-ประสานงาน
  • SO – การปรึกษา เพื่อแก้ไขเป็นอย่างไร
  • วิธีและขึ้นตอนการปรึกษาหารือ
  • เครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการปรึกษาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหา

 

  • Communication for Happy Life and Effective Work
  • การสื่อสารของหัวหน้าอย่างมีประสิทธิผล
  • ระบบการสื่อสาร
  • Communication-Report-Consults
  • Assertiveness
  • ภาษา-ภาษาพูด-ภาษาใจ
  • ทักษะการฟัง
  • กิจกรรม: ทักษะการฟัง
  • กิจกรรม: แบบทดสอบทักษะการฟัง

 

 

สรุปบทเรียน และถาม-ตอบ

 

 

ประโยชน์ที่ได้รับจากการฝึกอบรม

 

  1. หัวหน้างานรู้จักเข้าใจบทบาทของการเป็นหัวหน้างาน ที่มีภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยหลักการของ 4D Supervisory Skill
  2. หัวหน้างาน มีความกล้า มีความมั่นใจ ในการสื่อสารโดยการมอบหมายงาน การติดตามงาน การสอนงานต่อผู้ใต้บังคับบัญชาผ่านการสื่อสารประชุมงานก่อนเริ่มต้นทำงานในทุก ๆ วัน
  3. หัวหน้างานเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา และพร้อมที่จะสื่อสารเชิงบวกไปให้ เพื่อนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ
  4. หัวหน้างานเข้าใจวิธีการสื่อสารทั้งการชื่นชม และการตำหนิเพื่อให้เกิดการปรับปรุงงานให้เกิดประสิทธิภาพต่อเป้าหมายร่วมกันด้วยหลักของ 4D Supervisory Skill
  5. หัวหน้างานสามารถนำองค์ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการสื่อสารไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน

 

 

กลุ่มเป้าหมาย

 

  • ผู้บริหาร, ผู้จัดการ, หัวหน้างาน,

วิธีการอบรม

  • การบรรยาย/กิจกรรมกลุ่ม, เดี่ยว/ ทำแบบ Assessment /Clip VDO

 

รูปแบบหลักสูตร

1.การบรรยาย                                                      30 %

2.เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop    70%

 

 

 

motivation-3131641__340

หลักสูตรการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน (The Power of Motivation)

หลักสูตรการสร้างแรงจูงใจในการทำงาน (The Power of Motivation)

หลักการและเหตุผล
เป้าหมายสูงสุดของการบริหารงานได้แก่ การจัดการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานเพื่อบรรลุตามจุดมุ่งหมาย สูงสุดขององค์กร ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่และภารกิจที่สำคัญ ที่สุดของผู้บริหารที่จะต้องเรียนรู้ศาสตร์ในการ บริหารบุคคล ที่เน้นเรื่องการศึกษาพฤติกรรมบุคคล กลุ่มและองค์การ ตลอดจนปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบ ต่อพฤติกรรมในองค์การ เพื่ออธิบาย ทำนายและควบคุมปรากฏการณ์ของการบริหารที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ความรู้ความเข้าใจแนวคิดเรื่องแรงจูงใจของบุคคล จะช่วยให้ผู้บริหารรู้ถึงความต้องการและ แรงจูงใจของผู้ใต้บังคับบัญชาและพร้อมที่จะสร้างแรงจูงใจในการทำงานเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาดังกล่าว ทำงานอย่างที่เรียกว่า “งานก็ได้ผล คนก็เป็นสุข” ที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จในการ บริหารงาน

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และเตรียมพร้อมที่จะเป็นพนักงานที่องค์กรต้องการ

  1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเกิดความรักความผูกพันองค์กร รู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน
  2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทราบถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการทำงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ
  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้กับตนเองในการทำงานและการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
  4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ข้อเด่น ข้อด้อยของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงาน,การใช้ชีวิต ให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข
  5. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง และสามารถปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์

 

รายละเอียดหลักสูตร

  1. ความหมายของแรงจูงใจ
    • องค์ประกอบที่สำคัญของแรงจูงใจ ในการทำงานของพนักงาน
    • ปัจจัยหรือองค์ประกอบที่ทำให้เกิดแรงจูงใจ
    • บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ ของพนักงาน
    • การจูงใจ หรือแรงจูงใจ คืออะไร
    • ทฤษฎีการจูงใจ Theories of Motivation

– ทฤษฎีการจูงใจ ของ Maslow

– ทฤษฎีสองปัจจัย ของ Herzberg

– ทฤษฎี X ทฤษฎี Y ของ Mcgragor

  • เทคนิคการสร้างแรงจูงใจให้ตนเองและผู้อื่น (D-R-I-V-E)

– D = Develop yourself & others การพัฒนาตนเองและผู้อื่น

– R = Relationship การสร้างสัมพันธภาพที่ดีในการทำงาน

– I  = Individual Motivation การสร้างแรงจูงใจของปัจเจกบุคคล

– V = Verbal Communication ความสามารถในการสื่อสาร

– E = Engagement ความผูกพันต่อองค์กร จิตสำนึกรักองค์กร

  1. การสร้างขวัญแรงจูงใจ และวินัย ในสถานประกอบการ
    • วินัย และคุณธรรมในการทำงาน
    • ทัศนคติสำหรับพนักงาน (Employee Attitude)
    • การสร้างทัศนคติที่ดี (Attitude) ในการทำงาน
  2. จิตสำนึกในการทำงาน (Work Awareness) และจงรักภักดีต่อองค์กร

Workshop: ระดมความคิดสร้าง โรงงานในฝัน

  1. หลักในการทำงานและดำเนินชีวิตให้ประสบผลสำเร็จและมีความสุข
    • ความสำเร็จในการงาน และชีวิต
    • องค์ประกอบของความสำเร็จในชีวิตการงาน
    • ความปรารถนาของนายจ้างจากลูกจ้าง
    • เคล็ดลับดีๆในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง (รักษาโรคเบื่องาน)
    • วิธีทำงานอย่างมีความสุข
    • สร้างและมีมนุษย์สัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
    • การสำรวจตัวเอง เพื่อดึงศักยภาพออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง
      – เทคนิคการส่งเสริมให้ใช้จินตนาการตนเอง
      – การสร้างแรงจูงใจด้วยตัวคุณเอง
      – วิธีการสร้างแนวคิดใหม่
      – เทคนิคการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน
      – เทคนิคการคิดและทำเพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
      – สัญญาณอันตราย! และตัวชี้วัดความสำเร็จ

 

Workshop: กิจกรรมกลุ่มทำงานอย่างไรให้มีสุข

 

ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมได้รับ
1. ผู้เข้าอบรมตระหนักและเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง และเตรียมพร้อมที่จะเป็นพนักงานที่องค์กรต้องการ

  1. ผู้เข้าอบรมเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองเกิดความรักความผูกพันองค์กร รู้สึกเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน
  2. ผู้เข้าอบรมทราบถึงความสำคัญ และความจำเป็นในการสร้างแรงจูงใจเพื่อการทำงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ
  3. ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างแรงบันดาลใจและแรงจูงใจให้กับตนเองในการทำงานและการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
  4. ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ข้อเด่น ข้อด้อยของตนเอง และสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการทำงาน,การใช้ชีวิต ให้มีประสิทธิภาพและมีความสุข
  5. ผู้เข้าอบรมสามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ให้เต็มที่เต็มพลัง และสามารถปรับประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างสร้างสรรค์

 

แนวทางการการอบรม

  1. การอบรมมีทั้งการบรรยาย และทดลองปฏิบัติกรณีศึกษาเพื่อให้เห็นจริงในการทำ Coaching ทำให้การอบรม เป็นไปอย่างสนุกสนาน
  2. การฝึกอบรมเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่(Adult Learning) ซึ่งเน้นให้เกิดความคิด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเล็งเห็นประโยชน์ของเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  • ผู้บริหาร หัวหน้างาน
  • พนักงานทุกระดับ