การทำงานเชิงรุก1

หลักสูตร การพัฒนาปรับปรุงคุณภาพงานเชิงรุก สู่ความสำเร็จ (Proactive Working to Success )

หลักสูตร การพัฒนาปรับปรุงคุณภาพงานเชิงรุก สู่ความสำเร็จ

(Proactive Working to Success )

หลักการและเหตุผล :

สถานการณ์การทำงานในปัจจุบัน มีการแข่งขัน และ ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทำให้ต้องมีการปรับตัว ทั้งส่วนองค์กรและส่วนพนักงาน ผู้ปฏิบัติงานจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนอยู่เสมอ เพื่อให้เป็นมืออาชีพที่แท้จริง มีการปรับวิธีการทำงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม สามารถสื่อสารและประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพตัวเอง แข่งขันกับคนอื่น ทันสถานการณ์

การปลูกฝังให้พนักงานในองค์กรมีหลักการในการปฏิบัติงานเชิงรุก ที่มีประสิทธิภาพย่อมส่งผลดีต่อการบริหารงาน และการวางแผนงานในเวลาเดียวกันได้ด้วย ดังนั้นการทำงานเชิงรุก     ( Proactive Management ) ที่คนทำงานในองค์กรโดยเฉพาะระดับที่เป็นผู้นำคนอื่นตั้งแต่ระดับ หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหาร จึงมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นการคิด พูด และการลงมือปฏิบัติให้เกิดการทำงานเชิงรุกได้อย่างแท้จริง เพื่อป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายหรือปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ตามคำพูดที่ว่า “ กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะแย่แล้วมักจะแก้ไม่ทัน ” และการปรับปรุงพัฒนายกระดับกระบวนการหรือระบบการทำงานให้ดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อเอาชนะคู่แข่งได้ อีกทั้งเป็นการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้ากับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ( Stake Holders ) ตลอดไปอันจะนำไปสู่ความเจริญเติบโตขององค์กรแบบยั่งยืน

 

วัตถุประสงค์

  1. 1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับแนวคิดและความรู้ ความสำคัญของการทำงานเชิงรุก
  2. 2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกทักษะด้านการทำงานเชิงรุกต่างๆที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
  3. 3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน และรับฟังประสบการณ์ข้อแนะนำจากวิทยากร
  4. 4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ แนวคิด ประสบการณ์ และ สิ่งที่ได้จากการฝึกปฏิบัตินำกลับไปใช้ในการทำงานได้จริง

 

เนื้อหาการอบรม

  • ความหมายของการทำงานเชิงรุก ( Proactive )
  • แนวคิดการทำงานเชิงรุก
  • ความคิดที่จำเป็นสำหรับการทำงานเชิงรุกคือ SWOT Analysis ปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ เทคโนโลยีสมัยใหม่ ฯลฯ กับปัจจัยภายใน (จุดแข็ง,จุดอ่อน,โอกาส , ภัยคุกคาม )
  • ความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบคนทั่วไปที่ทำงานตามสั่งหรือสถานการณ์บีบบังคับแบบ Reactive กับ การทำงานเชิงรุกแบบ Proactive
  • การทำงานเชิงรุกตามหลัก 7 Habits
  • การใช้หลัก Encourage ผลักดันชีวิตการทำงาน และส่วนตัวให้สร้างฝันเป็นจริง
  • การพัฒนาและสร้างสมรรถนะของบุคลากรทั้งองค์กร ( Competency ) ให้สามารถรองรับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตภายใน 5 ปี นี้
  • การสร้างบรรยากาศให้ทุกคนมีความสุขในการทำงานและได้ผลงานสูงสุด
  • การทำงานเชิงรุกภาคปฏิบัติ ฝึกปฏิบัติ ทำแบบฝึกหัดเพื่อสามารถนำกลับไปใช้งานได้จริง
  • การแก้ปัญหาแบบ Correction , Corrective Action และ Preventive Action
  • การปรับเปลี่ยน และการพัฒนาองค์กรด้วยการกระจายนโยบายจากระดับสูงสุดลงสู่การกระทำของบุคลากรทุกคนในระดับต่ำสุดขององค์กร เริ่มจาก Goal -> Objective -> Strategy Plan ->Action Plan -> Project/Activity ของหน่วยงานหรือตัวบุคคลโดยมี KPIs & Target กำกับ
  • การปรับปรุงกระบวนการและระบบการทำงานด้วยหลัก ECRS
  • การปรับปรุงระบบคุณภาพ
  • การเพิ่มผลผลิต ( Productivity up )
  • การลดต้นทุนที่พนักงานทุกคนทุกระดับมีส่วนร่วม
  • การทำ 5 ส ( พื้นฐานของการปรับปรุงพัฒนาองค์กรทุกประการ )
  • เทคนิคการวางแผนการทำงาน และการกำหนดเป้าหมายสำหรับการทำงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาวิธีการทำงานด้วยเทคนิคการทำงานเชิงรุกแบบทีม
  • เครื่องมือ และปัจจัยที่สนับสนุนการทำงานเชิงรุก
  • ฝึกปฏิบัติ : การทำกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมการทำงานเชิงรุก

 

 

ประโยชน์ที่ได้รับ

  1. 1. ผู้เข้าอบรมได้รับแนวคิดและความรู้ ความสำคัญของการทำงานเชิงรุก
  2. 2. ผู้เข้าอบรมได้ฝึกทักษะด้านการทำงานเชิงรุกต่างๆที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

3.ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน และรับฟังประสบการณ์ข้อแนะนำจากวิทยากร

  1. 4. ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ แนวคิด ประสบการณ์ และ สิ่งที่ได้จากการฝึกปฏิบัตินำกลับไปใช้ในการทำงานได้จริง

 

แนวทางการการอบรม

  1. การบรรยายรูปแบบ Online
  2. การฝึกอบรมเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่(Adult Learning) ซึ่งเน้นให้เกิดความคิด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเล็งเห็นประโยชน์ของเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  • ผู้บริหาร หัวหน้างาน
  • พนักงานทุกระดับ