หลักสูตร กลยุทธ์การลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

หลักสูตร กลยุทธ์การลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

หลักการและเหตุผล:

การส่งเสริมการบริหารด้านคุณภาพส่วนหนึ่ง ก็คือ การลดของเสียขององค์กร ให้มีเป้าหมายลดของเสียลดลง และเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น แต่ใช้วัตถุดิบและกำลังคนในการผลิตเท่าเดิม จึงต้องมีวิธีการในการบริหารงานให้ของเสียที่จะผลิตในแต่ละครั้งเป็นศูนย์ เพื่อทำให้ผลกำไรขององค์กรมากขึ้น เนื่องจากเราสามารถลดต้นทุนในการที่ต้องนำของที่ผลิตเสียมาทำใหม่ ซึ่งจะสิ้นเปลืองทั้ง วัตถุดิบและกำลังคน นอกจากนี้ บริษัทยังต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นอีกด้วย

ปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมการผลิตต้องมีการปรับตัว เพื่อความอยู่รอด การทำของเสียให้เป็นศูนย์ จำเป็นมากสำหรับผู้ผลิต ที่สามารถลดต้นทุน ลดความสูญเสียโอกาสทางการผลิต และลดความสูญเปล่าได้ ทั้งยังสามารถสร้างมาตรฐาน และแนวความคิดที่สําคัญในการผลิตรวมถึงส่งเสริมการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

 

วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ตระหนักและเข้าใจถึงการลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

2.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจถึงแนวความคิด วิธีการและเทคนิคการดำเนินการของ การลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

  1. 3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้เรื่อง การลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)มาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปรับปรุงงานเพื่อลดความสูญเสียต่างๆ โดยไม่จำเป็น

5.เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างถูกวิธีและทราบถึงอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง เพื่อลดความสูญเสียจากการทำงาน

 

รายละเอียดหลักสูตร

1.ปัญหาด้านคุณภาพและการตรวจสอบคุณภาพในกระบวนการผลิตคืออะไร?

  1. 2. อะไรคือ ของเสีย (Defect) Vs. ความผิดพลาด (Mistake-Error) และมีปัจจัยเกิดขึ้นได้อย่างไร?
  2. 3. แนวคิดการเกิดของเสียและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเกิดของเสีย

– แนวคิดและหลักการมุ่งสู่ Zero Defect

– Zero Defect คืออะไร

– กลไกของการบรรลุเป้าหมายของเสียเป็นศูนย์

  1. 4. แนวคิดและหลักการที่เกี่ยวกับการปรับปรุงงาน (Improvement) และการควบคุมสภาวะต่างๆ ในงานผลิต
  • การวางแผนปรับปรุงงานด้วย PDCA และหลักการปรับปรุงงานเบื้องต้นด้วย ECRS
  • ระบบการมองเห็น (Visual System)
  1. 5. หลัก 8 ประการเบื้องต้น (8D) สู่การป้องกันความผิดพลาดเป็นศูนย์เพื่อให้ของเสียเป็นศูนย์ (Zero Defect)
  2. 6. กระบวนการตรวจสอบและดักจับความผิดพลาดที่ต้นเหตุ (Source inspection) ก่อนเกิดของเสีย
  3. 7. หลักการควบคุมไม่ให้เกิดความผิดพลาดและป้องกันความผิดพลาดจากการทำงาน (Mistake-Proofing)
  4. 8. แนวทางการจัดโปรแกรมปรับปรุงคุณภาพ (Quality Improvement)
  • ให้ผู้บริหารมีความผูกพันต่อการจัดการคุณภาพอย่างชัดเจน
  •  จัดตั้งทีมปรับปรุงคุณภาพโดยให้มีตัวแทนมาจากแต่ละฝ่าย
  •  กำหนดให้มีการวัดคุณภาพ เพื่อแสดงปัญหาที่เป็นอยู่ หรือเป็นปัญหาที่อาจเกิดได้ในอนาคต
  •  กำหนดต้นทุนคุณภาพและอธิบายวิธีการใช้ต้นทุนคุณภาพในฐานะที่ เป็นเครื่องมือในการจัดการ
  •  ยกระดับการตระหนักถึงระดับคุณภาพ และความห่วงใยส่วนตัวต่อชื่อเสียงคุณภาพของบริษัทให้เกิดกับพนักงาน
  1. 9. วิเคราะห์และทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหาโดยรวม
  • จัดการปัญหาที่เกิดจากมาตรฐานการทำงาน
  • แนวทางจัดการปัญหาที่เกิดจากคน
  • การอบรมผู้ปฎิบัติงานเพื่อการทำที่ถูกต้อง
  • การควบคุมโดยการมองเห็นเพื่อการทำที่ถูกต้อง
  • Poka Yoke เพื่อการผลิตของเสียเป็นศูนย์
  • กำหนดเป้าหมาย และกระตุ้นให้บุคคลและกลุ่มกำหนดเป้าหมายการปรับปรุงคุณภาพ
  • กระตุ้นให้พนักงานแจ้งปัญหาการปรับปรุงคุณภาพที่เขาประสบ แก่ ผู้บริหารเพื่อให้เกิดการรณรงค์แก้สาเหตุที่ผิดพลาดให้ได้ตามจุดมุ่งหมาย
  • ทำให้ทุกคนที่เข้าร่วมโปรแกรมยอมรับและเกิดความซาบซึ้ง
  • จัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษาคุณภาพ เพื่อปรึกษาหารือกันเป็นประจำ
  • จัดทำโปรแกรมแบบเดิมซ้ำอีก

 

  1. 10. สรุปการเรียนรู้และถามตอบ

 

ประโยชน์ที่ผู้เข้าอบรมได้รับ
1.ผู้เข้าอบรมได้ตระหนักและเข้าใจถึงการลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

2.ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจถึงแนวความคิด วิธีการและเทคนิคการดำเนินการของ การลด ของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)

3.ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้เรื่อง การลดของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Defect)มาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ผู้เข้าอบรมได้ทราบถึงแนวทางและขั้นตอนในการปรับปรุงงานเพื่อลดความสูญเสียต่างๆ โดยไม่จำเป็น

5.ผู้เข้าอบรมได้พัฒนาและแก้ไขปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างถูกวิธีและทราบถึงอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง เพื่อลดความสูญเสียจากการทำงาน

 

 

 

รูปแบบหลักสูตร

  1. การบรรยาย                                    30 %
  2. เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop 70%

 

 

 

แนวทางการการอบรม

  1. การอบรมมีทั้งการบรรยาย และทดลองปฏิบัติกรณีศึกษาเพื่อให้เห็นจริงในการทำ Coaching ทำให้การอบรม เป็นไปอย่างสนุกสนาน
  2. การฝึกอบรมเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่(Adult Learning) ซึ่งเน้นให้เกิดความคิด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเล็งเห็นประโยชน์ของเนื้อหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง

 

คุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรม

  • หัวหน้างาน
  • พนักงานทุกระดับ
Did you enjoy this article?

หลักสูตรการอบรมเพิ่มเติม