หลักสูตร การรับมือกับวันแย่ๆอย่างมืออาชีพ
(Handling a bad situation professionally)
หลักการและเหตุผล :
มนุษย์เราทุกคนเกิดมาย่อมมีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายๆเข้ามาในชีวิต เรื่องดีๆเข้ามาไม่ต้องบอกว่าความสุข ความยินดี ความเบิกบานจะมีมาแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเรื่องนั้นๆ จะสร้างความพอใจให้เราได้ขนาดไหน แต่ถ้าเรื่องร้ายๆเข้าทาซิ จะเป็นวันที่เราต้องรับมือกับมันอย่างไรการปรับตัวเพื่อต่อสู้กับวันแย่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
ปัญหาต่าง ๆ ของการปรับตัวอาจมีสาเหตุมาจากการที่บุคคลต้องเผชิญกับสภาพการณ์ หรือสถานการณ์ที่มีความกดดัน มีความขัดแย้ง เมื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งเผชิญปัญหาไม่ว่าทั้งปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากตัวบุคคลนั้นเอง หรือปัญหาที่เป็นผลจากสภาพแวดล้อม โดยทั่วๆ ไป บุคคลนั้นก็จะพยายามปรับตัวต่อสภาพที่เป็นปัญหาที่เขากำลังเผชิญนั้น เพื่อให้สภาวะความกดดัน หรือ ความเครียด ความวุ่นวายใจ และความกังวลใจค่อย ๆ คลี่คลายลงจนกระทั้งหมดไปในที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าปรากฏว่าบุคคลบางคนนั้นไม่สามารถจะขจัดปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้สภาวะของความวุ่นวายใจ อึดอัดใจ หรือไม่เป็นสุขใจจะยังคงมีอยู่ต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงสามารถกล่าวได้ว่า สภาวะที่ทำให้บุคคลเกิดความวุ่นวายทางจิตใจนั้น อาจจะมีสาเหตุมาจากสภาพทางร่างกาย สภาพทางจิตใจ หรือสภาพทางสังคมของบุคคลนั้น และเมื่อสภาวะดังกล่าว เกิดขึ้น ก็อาจจะส่งผลกระทบให้บุคคลนั้นต้องสูญเสียความสมดุลในตนเอง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความแปรปรวนทางพฤติกรรม
ตลอดทั้งความรู้สึกนึกคิด แต่ในบางโอกาส นอกเหนือจากที่ปรากฏว่า สภาวะความวุ่นวายทางจิตใจอาจจะเป็นต้นกำเนิดของความล้มเหลว หรือความทุกข์ กลับพบว่าสภาวะความวุ่นวายทางจิตใจบางประการได้ช่วยให้บุคคลตระหนัก และพยายามทำความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ หรือเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ดีขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้บุคคลได้พยายามปรับปรุงตนเอง ตลอดทั้งพยายามสร้างเสริมในสิ่งที่มีคุณค่าทั้งแก่ตนเอง และสังคมมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามปัญหาความเครียด ความวุ่นวายทางจิตใจ ความกดดัน หรือสิ่งที่คุกคามจิตใจบางประการอาจจะไม่มีความร้ายแรงมากนัก แต่ในบางสภาวะการณ์ หากมีเหตุการณ์บางประการที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ ความปรารถนา หรือความมุ่งหวังของบุคคลนั้นๆ เกิดขึ้น บุคคลอาจจะเกิดความรู้สึกวุ่นวายใจ โมโห โกรธ หรือไม่พอใจ
แต่ภายหลังที่ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว หากเขาลืมเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และไม่ติดใจ หรือฝังใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ต่อไป สภาวะการณ์ดังกล่าวนี้เรียกว่า สภาวะความวุ่นวายทางจิตใจที่ไม่รุนแรงนัก เช่น การนอนตื่นสายแล้วไปสอบไม่ทันจึงทำให้ถูกเรียกไปว่ากล่าวตักเตือนเป็นต้น สภาวะความวุ่นวายทางจิตใจในสภาพดังกล่าวนี้ อาจจะก่อให้เกิดความผิดปกติทางบุคลิกภาพได้ หากพฤติกรรมที่ผิดปกตินั้น คงอยู่เป็นเวลานานจนกระทั้งบุคคลนั้นต้องล้มเจ็บทางจิตใจ ตัวอย่างเช่น ความผิดหวังในชีวิตสมรส ความไม่สมหวังต่างๆ อาจคุกคามบุคคลบางคนจนไม่สามารถจะกระทำสิ่งใดๆ ได้ เป็นต้น
สภาวะ หรือสถานการณ์ที่บีบคั้น หรือคุกคามบุคคลบางคน บุคคลบางคนอาจสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่คุกคามได้แม้ว่าจะมีความรุนแรงแต่ก็ผ่านไปได้ไม่ยากนัก ในขณะที่บุคคลบางคนต้องล้มเจ็บทางจิตใจ ทั้งนี้เพราะว่าสภาวะความวุ่นวายทางจิตใจ หรือความเครียดของบุคคล แต่ตราบใดก็ตามที่จำนวนของสภาวะความวุ่นวายทางจิตใจ หรือความเครียดอย่างรุนแรงเพิ่มมากขึ้นจนบุคคลนั้นไม่สามารถจะอดทนได้อีกต่อไปบุคคลนั้นอาจจะเกิดความผิดปกติทางจิตใจ หรือผิดปกติทางบุคลิกภาพได้
เพราะฉะนั้นการปรับตัวที่จะต้องรับมือกับสถานการณ์การที่เลวร้ายอย่างมืออาชีพ เราต้องมีเครื่องมือที่ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต การพัฒนาระดับความสามาร (Quotient) ในด้านต่างๆ ของชีวิตนั้นจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะทำให้คนประสบความสำเร็จในการรับมือกับเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิด เราเรียกเครื่องมือนี้ว่า “การรับมือกับวันแย่ๆอย่างมืออาชีพด้วย 5Q”
การพัฒนาระดับความสามารถในด้านต่างๆ ที่สำคัญ (5Q) ของเรานั้น จึงเป็นแนวทางที่องค์กรส่วนใหญ่อยากให้เกิดขึ้นกับทุกคนในองค์กรของตัวเอง โดยการทำให้แต่ละคนมี 5Q ที่สูงขึ้น
5Q ประกอบไปด้วย
IQ : ทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างฉลาด
EQ : การจัดการอารมณ์เชิงลบของตัวเอง
AQ : การเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาสที่ท้าทาย
OQ : การแสดงผลงานที่มีคุณค่าด้วยการมองโลกในแง่ดี
UQ : การเป็นบุคคลที่ร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
การประยุกต์ใช้แนวทางบริหารจัดการ Q (Quotient) ต่างๆ กับสถานการณ์ที่แย่ๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานที่เรารู้สึกอึกอัด ย่อมทำให้เราสามารถผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อบุคคลรอบข้าง รวมถึงการเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีขององค์กร จะทำให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
การเรียนรู้และนำแนวทางไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเข้าใจแนวทาง 5Q นั้น จะทำให้เราได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้วอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง นั่นก็หมายความว่าจะนำไปสู่การรับมือกับวันแย่ๆ ได้อย่างมืออาชีพ
โดยที่ Q แต่ละตัวจะสอดคล้องกันและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักของสมาธิเข้าไปเป็นพื้นฐานของสิ่งเหล่านี้จะทำให้เป็น 5Q แบบยั่งยืนแล้วเป็นต้นแบบเพื่อองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้นำไปปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตัวเอง
วัตถุประสงค์ในการอบรม
- มีเครื่องมือใหม่ๆการของการเผชิญปัญหาอย่างมืออาชีพ โดยใช้หลักของ 5Q
- เกิดการเรียนรู้กระบวนการของ 5Q และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีรูปแบบและเห็นผล มีมุมมองปัญหาและอุปสรรคของงานที่เจออยู่ด้วยมุมมองใหม่ๆ สามารถนำวิธีการของตนเองมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นอัตโนมัติ
- ได้ปรับทัศนคติ มุมมอง ต่อสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ไปในทางบวกมากขึ้น
- เข้าใจว่าทุกๆชีวิตล้วนเจอกับสิ่งที่แย่ๆ การรับมือกับมันต่างหากสำคัญกว่า
5.เมื่อเราเข้าใจและปรับตัวอยู่กับสถานการณ์ร้ายๆ ได้แล้ว เราจะเข้าใจชีวิตคนอื่นๆ ได้มากขึ้นตามไปด้วย เราจะมีจุดร่วม และจุดต่างของการอยู่ร่วมกันในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข และบรรลุเป้าหมายขององค์กรร่วมกัน
- ค้นพบ “ตัวตน” ที่แท้จริงของตนเองว่าเรามีศักยภาพในการเผชิญเรื่องเลวร้ายและสามารถผ่านพ้นมันไปได้ สามารถนำพาตนเองและองค์กรที่มีความหลากหลายไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจําวันและการทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เข้าใจหลักของ 5Q ผ่านกิจกรรมดังต่อไปนี้
– สนุกกับการใช้ IQ (Intelligence Quotient) แก้ปัญหาต่างๆ
– พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ EQ (Emotional Quotient)
– ก้าวข้ามอุปสรรค AQ (Adversity Quotient) อย่างกล้าหาญ
– แสดงผลงานอย่างมีคุณค่าด้วยความเป็นเจ้าของ OQ (Optimist Quotient)
– พัฒนาตนเองด้านสังคม UQ (Unity Quotient) อย่างมีความสุข
- ได้ทดลองปฏิบัติผ่าน Workshop: กำหนดแนวทางพัฒนา 5Q ของตนเอง
ลักษณะของการอบรม
เป็นการเรียนรู้เนื้อหาวิชาการ ผ่าน Work Shop และกิจกรรมต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า 5Q (IQ EQ OQ AQ UQ ) และ OD ที่หลากหลายประเภทผสมผสานกัน เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาทางวิชาการให้เข้าใจได้ง่าย สามารถนำไปปรับใช้กับการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการ
- บรรยายเนื้อหาวิชาการประกอบการทำ Work Shop และกิจกรรมกลุ่ม ในอัตราส่วน เนื้อหาวิชาการ 70 : Work Shop กิจกรรม 30
- การใช้เครื่องมือทางด้าน 5Q และ OD tools และเทคนิคการฝึกอบรมหลายประเภท เช่น
- Ai (Appreciative Inquiry)
- Dialogue สุนทรียะสนทนา
- เกมพฤติกรรม
- Work Shop
- การระดมความคิดด้วย 5Q
- Clip VDO และอื่นๆ
หัวข้อสำคัญในการเรียนรู้
- หลักและวิธีการจัดการงานและคนอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 5Q
- ใครคือคนที่องค์กรต้องการ
- บทบาทหน้าที่ของตัวเอง
- ทฤษฎีพฤติกรรมมนุษย์เพื่อการจัดการ
- เรียนรู้คน จากโมเดลผู้นำ 4 ทิศ
- การสร้างแรงผลักดันให้ลูกน้องทำงานและมุ่งมั่นทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
- ทฤษฎีการสร้างแรงจูงใจ ในการทำงาน
- การประยุกต์กับการทำงานได้อย่างสัมฤทธิผลด้วย 5Q
- ทัศนคติที่ดีในการทำงาน
- Work Shop
- ผ่านกิจกรรมกลุ่ม 4-5 กิจกรรม In house
- ระดมสมอง และแชร์ความคิด
ความหลากหลายของกิจกรรม
– รู้จักตนเองเพื่อเข้าใจผู้อื่นด้วย 5Q (แบบทดสอบสัตว์สี่ทิศ) เพื่อพร้อมรับกับสถานการณ์ที่เลวร้าย
– ความแตกต่างของเจนเนอเรชัน (generations’ differences) ย่อมมีวิธีรับมือปัญหาต่างกัน
– เราเป็นค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใกล้ชิดมากที่สุด เราจะซึมซับวิธีการแก้ปัญหามาจากเขา
– Work Shop 5Q ฝึกเล่าเรื่องตามคำสั่งและการแก้ปัญหากับเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด
– การพัฒนาตนเองเพื่อเสริมสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีด้วย 5Q
– Work Shop เดาใจเพื่อนด้วยตัวเลข (สงครามตัวเลข)
– Clip VDO การเข้าใจตนเอง เข้าใจชีวิต เข้าใจปัญหา พร้อมรับเสมอ
– เรียนรู้การทำงานของสมองที่ช่วยให้เราสามารถรับมือกับวันแย่ๆ อย่างมืออาชีพ
– “คิดด้วยสมอง…ทำด้วยใจ”
– การสื่อสารแบบปากต่อปาก (Work Shop ใบ้คำ)
– การเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิต ทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการรับมือกับเรื่องร้ายๆ
– คำพังเพยไทย (Work Shop สนุกคลายเครียด)
– WHO ARE YOU (Work Shop)
– Dialogue (พูดคุยกันแบบสบาย ๆ ในกิจกรรมที่ผ่านมา)
– คนเราทุกคนต้องเจอเรื่องร้ายๆ วันแย่ๆ สถานการณ์ที่ไม่อยากให้เกิด ด้วยกันทั้งนั้นไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ประเด็นอยู่ที่เราจะได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? เพื่อให้ชีวิตได้ก้าวเดินต่อไป
ใครควรเข้าร่วม?
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการเข้าใจความหมายของชีวิตว่าหลีกหนีไม่พ้นวันเรื่องแย่ๆ ด้วยกันทั้งนั้นแต่เรามี 5Q เป็นแนวทางให้ผ่านพ้นไปได้
- บุคคลทั่วไปที่ต้องการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ดี ด้วย 5Q
- ผู้บริหาร หัวหน้างาน ระดับปฏิบัติงาน ที่ต้องการพัฒนาตนเองด้วย 5Q
รูปแบบหลักสูตร
- การบรรยาย 40 %
- เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ Workshop 60%